คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์รายวัน

คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์รายวัน 

มีการถกเถียงกันอย่างมากในบทความหนึ่งของ Washington post เกี่ยวกับ เทรดเดอร์ในฟลอริด้า ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทรดเดอร์คนหนึ่งอายุ ราว ๆ 25 ปี ชื่อ ดีแลนด์ซึ่งมีผลการเทรดยอเยี่ยม และชีวิตการเทรดที่เลิศหรู  

แล้วเทรดเดอร์เหล่านั้นรู้สึกอย่างไร พวกเขาอยากจะเปลี่ยนอาชีพที่กระตุ้นต่อมอะดรีนารีนของเรานี้ให้มั่นคงได้อย่างไร  มันไม่ใช่เพียงแค่อัตราต่อรองของตลาดเท่านั้นที่กดดันพวกเขา แต่เป็นทั้งอัตราต่อรองทางจิตวิทยาด้วย  

“เหตุผลว่าทำไมไม่มีคนแก่ ๆ ในออฟฟิศเพราะว่าความเครียด" ดีแลนด์พูด " ผมเห็นว่าแม้กระทั่งทุกวันนี้คุณสามารถหมดตัวได้หลังจากที่เทรดมาเป็น 5 -10 ปี มีหลายคืนที่เราหลับไม่ลงเพราะว่าเรากดดัน เราจมอยู่กับความคิดที่ว่าจะต้องทำกำไรได้ 50,000 เหรียญ หรืออาจจะขาดทุน 50,000 เหรียญ แต่ว่าเราไม่รู้มันจะออกด้านไหน?" 

ภายใต้ความกดดันนี้ เทรดเดอร์เริ่มจะเครียดเกินไป หรืออาจจะรู้สึกวางใจเกินไปกับระบบเทรด และก่อนที่เขาจะติดกัปดักอารมณ์ตัวเองพร้อมกับรายได้ที่สุดลง ความมั่นใจที่ลดลง  .

ผมมีคำแนะนำนิดหน่อยสำหรับคุณ ดีแลนด์ ผมเห็นและนั่งดูการเทรด Day Trading มาตั้งแต่ผมเริ่มเทรดในช่วงปลายปี 90 ผมรู้จักคนเก่ง ๆ และรักการเทรด ซึ่งคนเหล่านี้มีไม่มากนัก 

ก่อนที่ผมจะเริ่มคำแนะนำ คุณควรรู้เรื่องเหล่านี้:

1.  อัตราต่อรองจะทำให้คุณเสียเปรียบในการทำกำไรทุก ๆ สภาวะตลาดที่เกิดขึ้น.

2.  อัตราต่อรองยังทำให้คุณจิตใจหวั่นไหวและนำหน้าเรา 1 ก้าวเสมอ ซึ่งมันเป็นเครื่องจักรหรือกลยุทธ์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อมาจัดการคุณโดยเฉพาะ 

3.  ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกว่าจะต้องประสบความสำเร็จเป็นความรู้สึกที่จะนำความพ่ายแพ้มาให้อย่างมนุษย์เรา ซึ่งเกี่ยวกับ อีโก้ของเรา และการทำกำไรหวือหวาในตลาดระยะสั้น จะเกิดขึ้นกับคุณเสมอ ๆ ไม่สำคัญว่าคุณจะทำการบ้านมาหนักขนาดไหน 

4.  การเทรดไม่สามารถเพิ่มไปเป็นประสบการณ์ในชีวิตใน Resume ให้คุณได้ ผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่เทรดมาหลายปี แต่ว่าเขาต้องแต่งประสบการณ์ตัวเองเพื่อไปใช้สมัครงานในบริษัท IT เพื่อหางานที่มั่นคงกว่า  

สิ่งเหล่านี้ ผมไม่ได้หมายความว่า ให้คุณเลิกเทรดเสีย คุณจะประสบความสำเร็จและได้กำไรที่คุณควรได้ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นตลอดไป ดังนั้นถ้าคุณวางแผนว่าจะอยู่วงการ Day trade นี้ต่อไป ทำสิ่งใหญ่ ๆ : ตั้งบริษัท  

ซื้อหุ้นบริษัทที่ตอนนี้คุณกำลังทำงานอยู่ หรือว่าถือหุ้นเพิ่ม เพราะว่าเมื่อทักษะคุณเริ่มลด คุณก็จะยังได้เงินจากความพยายามของเทรดเดอร์คนอื่น  เพราะบางคนอาจจะอยู่รอด หรืออาจจะไม่แต่ไม่สำคัญถ้าคุณมีหุ้น สุดท้ายคุณจะได้ผลตอแบทน  มองดูไปรอบ ๆ สิ เรื่องเล่าความสำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของกิจการบริษัทเทรดเสียส่วนใหญ่ 

เมื่อคุณเป็นเจ้าของบริษัท คุณสามารถจดจ่อกับการปรับปรุงเทคโนโลยี  ประสิทธิภาพการแข่งขัน การสร้างโปรแกรมที่จะคอยให้บริการด้วยความเร็ว หรืออื่น ๆ 

เมื่อคุณเป็นเจ้าของบ่อน คุณก็จะไม่กังวลมากว่าใครชนะ หรือแพ้ในแต่ละวัน เดือน ปี คุณจะได้รับกำไรจากการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ ด้านลิขสิทธิ์ การศึกษา ข้อมูล หรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการ เมื่อมันเข้าที่เข้าทางพวกเขาไม่เพียงแต่จะเป็นลูกจ้าง แต่จะเป็นทั้งลูกค้าคุณด้วย คุณก็จะสามารถเป็นเจ้าของบัญชีที่ไม่มีทางตายได้ ด้วยเหตุนี้ความกดดันจะลดลง คุณก็จะเห็นด้วยเหมือนกันว่าผลการเทรดของคุณดีขึ้น 

ผมขอยกคำพูดจาก  David Merkel  จากโพสต์ว่าคนจะรวยได้อย่างไรในช่วงปลายเดือนมกราคม 

คนที่รวยมาก ๆ จากบริษัทของตัวเองและใช้ความมั่งคั่งของเขาทำให้เขามั่งคั่งยิ่งขึ้น พวกเขาจ้างคนที่มีพรสวรรค์ในการจ้างงานทำให้เขารวยยิ่งขึ้น ซึ่งมันอาจจะเป็นอุตสาหกรรมการลงทุนก็ได้ เช่นบริษัท Loews, Berkshire Hathaway, Leucadia, Icahn, หรืออื่น ๆ มันอาจจะเป็นบริษัทส่วนตัว หรือร่วมหุ้น กองทุนรวม หรือว่าอุตสาหกรรม ใจความคือ ความร่ำรวยนั้นมาจากบริษัทใหญ่ ๆ ที่ทำกำไรได้ซึ่งมุ่งมั่นไปที่ความพยายามของคนอื่น ๆ  ความร่ำรวยไม่เคยมาจากแรงงานของเรา หรือว่าการลงทุนในตลาด มันมาจากบริษัทที่ทำกำไรได้ 

ทีนี้ลองคิดถึงโลกความเป็นจริง มีนักลงทุนหรือว่าเทรดเดอร์กี่คนที่ทำกำไรได้มากมายอย่างเจ้าของบริษัท ผมคิดไม่ออกเลย แต่ผมคิดว่ามันมี แต่ผมสามารถนึกชื่อคนตั้งบริษัที่รวย ๆ เป็นร้อย ๆ ได้ที่ให้ทุกคนได้พยายามสร้างโอกาสจากความพยายามของพวกเขา 

Dylan, เหมือนจะฉลาด เริ่มแผนจากความจริง ซึ่งดูในสิ่งที่เราจัดการได้ เราไม่ต้องไปฆ่าสิงโตทุกเดือนเพื่อที่จะกินเนื้อมัน แล้วคุณจะขอบคุณผมวักวันนึง 

ที่มา:Meet Dylan the Daytrader (Washington Post)